จับตาบาทอ่อนหนุนต่างชาติเที่ยวไทย | ATTA

ACTIVITY OF MONTH














ATTA > Tourism News > จับตาบาทอ่อนหนุนต่างชาติเที่ยวไทย

จับตาบาทอ่อนหนุนต่างชาติเที่ยวไทย

 

“ก.ท่องเที่ยวฯ” คาดอานิสงส์เงินบาทอ่อนหนุนต่างชาติตัดสินใจเที่ยวไทยเพิ่ม หลังเฟดเพิ่งประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย ชี้ไทยควรเร่งหารือร่วมชาติอาเซียนไม่ลดค่าเงินแข่งกันเอง

นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงกรณีที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายจาก 0.25% เป็น 0.5% ถือเป็นจุดเปลี่ยนทิศทางอัตราดอกเบี้ยในรอบ 9 ปี และแสดงให้เห็นว่าภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาเข้มแข็งขึ้น ส่งผลต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ส่งแรงกดดันต่อค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องในปีหน้า ประกอบกับประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินแห่งชาติ ได้ประกาศคงที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายเท่าเดิม สะท้อนว่าเศรษฐกิจไทยยังฟื้นตัวค่อนข้างช้า

“ภาวะเงินบาทอ่อนตัว จะส่งผลดีต่อภาคการท่องเที่ยว ช่วยจูงใจให้นักท่องเที่ยวต่างชาติตัดสินใจเดินทางมาไทยและจับจ่ายมากขึ้น ด้านตลาดคนไทยเองคาดว่าจะเที่ยวในประเทศมากขึ้นด้วย”

นอกจากไทยแล้วค่าเงินของชาติในอาเซียนก็มีแนวโน้มปรับตัวอ่อนค่าไปในทิศทางเดียวกันไทยน่าจะใช้โอกาสนี้ในการสร้างความร่วมมือกับประเทศสมาชิกในเออีซีว่าไม่ควรลดค่าเงินเพื่อแข่งขันกันเองในการชิงนักท่องเที่ยวต่างชาติแต่ควรสร้างนวัตกรรมด้านสินค้าท่องเที่ยวรวมถึงการสร้างเครือข่ายเส้นทางท่องเที่ยว เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวร่วมกัน

“อีกสิ่งที่ต้องจับตาคือกำลังซื้อของคนไทยในช่วงเทศกาลปีใหม่ ว่าบรรยากาศจะเป็นอย่างคึกคักและมีเงินสะพัดมากน้อยแค่ไหน เพราะจะเป็นตัวชี้วัดสำคัญของภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปีหน้า”

ขณะที่นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า สถิตินักท่องเที่ยวต่างชาติตั้งแต่ 1 มกราคม-16 ธันวาคม 2558 มีต่างชาติเดินทางเที่ยวไทยแล้ว 28.3 ล้านคน สร้างรายได้ 1.357 ล้านล้านบาท คาดว่าตลอดทั้งปีจะมีนักท่องเที่ยวทั้งหมด 29.5 ล้านคน สูงกว่าเป้าหมายที่กระทรวงตั้งไว้ 28.8 ล้านคน

และคาดว่ารายได้นักท่องเที่ยวต่างชาติปีนี้จะอยู่ที่ 1.44 ล้านล้านบาท สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 1.4 ล้านล้านบาท ช่วยชดเชยรายได้จากตลาดในประเทศที่คาดว่าจะสร้างรายได้ 7.6-7.7 แสนล้านบาท ต่ำกว่าเป้าเดิมซึ่งตั้งไว้ 8 แสนล้านบาท ส่งผลให้รายได้รวมทั้งตลาดในและต่างประเทศปี 2558 เป็นไปตามเป้าหมาย 2.2 ล้านล้านบาท ทั้งนี้ได้ตั้งเป้าหมายรายได้ปี 2559 เป็น 2.3 ล้านล้านบาทในปี 2559 และเพิ่มเป็น 2.5 ล้านล้านบาทในปี 2560

ที่มา:ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

 

Comments

comments