จับเทรนด์ท่องเที่ยวปี 59 ช่องทางสร้างโอกาสผู้ประกอบการไทย | ATTA

ACTIVITY OF MONTH














ATTA > Tourism News > จับเทรนด์ท่องเที่ยวปี 59 ช่องทางสร้างโอกาสผู้ประกอบการไทย

จับเทรนด์ท่องเที่ยวปี 59 ช่องทางสร้างโอกาสผู้ประกอบการไทย

app11-696x380

 

แนวโน้มการท่องเที่ยวในปีนี้ สำหรับมุมมองในแง่ของเอาต์ไซด์อิน จะเป็นอย่างไร “ฐานเศรษฐกิจ” ได้รวบรวมมุมมองและการวิเคราะห์ ที่เกี่ยวข้องกับไทย ทั้งจากธุรกิจเสิร์ชเอนจินเกี่ยวกับด้านการวางแผนเดินทางท่องเที่ยว ธุรกิจทราเวล เอเยนต์ ออนไลน์ระดับโลก รวมถึงงานสัมมนาจากสถาบันชั้นนำของไทยมานำเสนอ เพื่อเป็นไกด์ไลน์ ให้ภาคธุรกิจท่องเที่ยวของไทย ได้นำมาใช้เป็นช่องทางในการสร้างโอกาสทางธุรกิจที่จะเกิดขึ้น

เมืองรองติดโผท็อปเทนยอดเสิร์ช

สำหรับมุมมองของสกายสแกนเนอร์(Skyscanner) ผู้นำด้านเสิร์ชเอนจินหรือบริการค้นหาตั๋วเครื่องบิน โรงแรมที่พัก และรถเช่าออนไลน์ ที่ตอบสนองความต้องการในการวางแผนการเดินทางของนักเดินทางกว่า 50 ล้านคนในแต่ละเดือน ได้เปิดเผยถึงแนวโน้มการท่องเที่ยวในปี 2559 ว่า 3 จุดหมายปลายทางในประเทศไทย ได้แก่ พัทยา เลย และร้อยเอ็ด ติดอันดับ 10 จุดหมายปลายทางที่มีอัตราการเติบโตของการค้นหาสำหรับปี 2559 ซึ่งหมายถึงจะเป็นจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมในปีนี้นั่นเอง โดยเมืองพัทยา อยู่ในอันดับ 4 รองจากเมืองหนานชาง จีน ,โคโลญ เยอรมนี และมอสโก รัสเซีย ขณะที่เมืองรองด้านการท่องเที่ยวของไทย อย่างจังหวัดเลย และร้อยเอ็ด ก็ติดอันดับด้วย (กราฟิกประกอบ)

นอกจากนี้สกายสแกนเนอร์ ยังเผยผลสรุปการเดินทางท่องเที่ยวประจำปี 2558 จากข้อมูลการค้นหาที่มีมากกว่าล้านครั้ง ยังพบข้อมูลที่น่าสนใจว่า นักท่องเที่ยวชาวไทย ยังชอบที่จะใช้บริการสายการบินที่ให้บริการเต็มรูปแบบ(51.6%)มากกว่าสายการบินราคาประหยัด( 48.4%) และจุดหมายปลายทางระหว่างประเทศที่มีการค้นหามากที่สุด คือ โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น และจุดหมายปลายทางในประเทศที่มีการค้นหามากที่สุด คือ กรุงเทพฯ สำหรับเมืองที่มีนักเดินทางมาเยือนประเทศไทยมากที่สุดในปี2558 คือ ลอนดอน มอสโก และสิงคโปร์

ต่อเรื่องนี้นางสาวเกรซ ภพปภา อารีรัตน์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด สกายสแกนเนอร์ ประเทศไทย กล่าวว่า นับว่าปี 2558 เป็นปีที่ทั้งน่าตื่นเต้นและท้าทายสำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทย เนื่องจากนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งเน้นการกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว ท่ามกลางความผันผวนทางเศรษฐกิจ ในขณะเดียวกัน การท่องเที่ยวของประเทศไทย(ททท.)ยังคงแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการรับมือกับความเปลี่ยนแปลง จากจำนวนของนักท่องเที่ยวที่ยังคงหลั่งไหลเข้ามาในประเทศไทย อาทิ จากลอนดอน มอสโก และสิงคโปร์ นอกจากนี้ จังหวัดอื่นๆ ในประเทศไทยยังเริ่มได้รับความสนใจมากขึ้นในปี 2559 ที่จะถึงนี้ สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์อันยาวนาน รวมถึงการต้อนรับอันอบอุ่นของชาวไทยที่มีโดยตลอดมา เพื่อมอบประสบการณ์การพักผ่อนให้นักท่องเที่ยวในปีนี้

 10 อันดับแนวโน้มท่องเที่ยวเอเชีย

ขณะที่ออนไลน์ทราเวลเอเย่นต์ (OTA)รายใหญ่ระดับโลก อย่าง Hotels.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ชั้นนำระดับโลก สำหรับจองที่พักทั่วโลก ก็ได้เปิดเผยถึง 10 อันดับเทรนด์การท่องเที่ยวสำหรับชาวเอเชีย ในปี2559 ที่จะเกิดขึ้น คือ อันดับ 1.การจองห้องพักผ่านดีไวซ์ (ผ่านอุปกรณ์ไอที อาทิ สมาร์ทโฟน แท็บเลต) จะเติบโตต่อเนื่อง เพราะนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ต้องการความคล่องตัวในการเดินทาง ซึ่งในปัจจุบันดีไวซ์ในมือถือ สามารถตอบโจทย์การเดินทางได้เป็นอย่างดี โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2558 มีจำนวนนักท่องเที่ยวจองห้องพักผ่านสมาร์ทโฟน คิดเป็น 1 ใน 3 ของการจองทั้งหมดบน Hotels.com

อันดับ 2. บริการพิเศษสำหรับลูกค้า อาทิ ส่วนลดค่าธรรมเนียมวีซ่า ประกันการเดินทาง ทัวร์ในพื้นที่ 1 วัน อันดับ 3 กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโรงแรม โดยนักท่องเที่ยว ที่คุ้นเคยกับเทคโนโลยีมักชอบอ่านและเขียนรีวิว จึงทำให้สิ่งเหล่านั้นกลายเป็นหัวใจสำคัญสำหรับการจองห้องพัก อันดับ 4 การสร้างลอยัลตีโปรแกรมต่างๆ ถือเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการประหยัดค่าใช้จ่ายสำหรับการท่องเที่ยว ผลสำรวจล่าสุดเผยว่า กว่า 50% ของผู้เข้าร่วมตอบแบบสำรวจได้สมัครลอยัลตีโปรแกรม และให้ความสำคัญกับสิทธิพิเศษอย่าง ของแถม, บัตรของขวัญ และส่วนลด

ส่วนอันดับ 5 การเดินทางที่เร่งรีบ โดยนักท่องเที่ยวอาจจะมีเวลาไม่เพียงพอสำหรับการจองห้องพักล่วงหน้า การจองห้องพักนาทีสุดท้ายก็ยังคงจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากจะได้รับส่วนลดและห้องพักที่ดีที่สุด อันดับ 6 สถานที่ท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มว่าจะได้รับความนิยมในปี 2559 คือ รีโอเดจาเนโรประเทศบราซิล เนื่องจากเป็นเจ้าภาพจัดงานโอลิมปิก 2016 ส่วนในทวีปเอเชีย เมืองกัวลาลัมเปอร์, ฮ่องกง และกรุงเทพฯ ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาจากภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก อันดับ 7 Bleisure หรือการเดินทางเพื่อท่องเที่ยวและทำงานถือเป็นช่วงขาขึ้นในเอเชีย อันดับ 8 นักท่องเที่ยวกลุ่มมิลเลนเนียล ถือว่าเป็นกลุ่มคนที่มีความรู้เรื่องเทคโนโลยีมากโดยนิยมการแชร์เรื่องราวชีวิตผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์กอย่างต่อเนื่อง โดยมีการคาดการณ์ว่านักท่องเที่ยวกลุ่มมิลเลนเนียลชาวเอเชียจะใช้จ่ายเกี่ยวกับการเดินทางมากขึ้น 1.6 เท่า หรือสูงถึง 3.4 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2563

อันดับ 9 การใช้จ่ายเกี่ยวกับการเดินทางจะเพิ่มมากขึ้น รายงานล่าสุดจากองค์การการท่องเที่ยวโลก (UNWTO World Tourism Barometer) เผยว่าจำนวนผู้โดยสารขาออกในประเทศจีนโตขึ้นระดับเลข 2 หลัก ทำให้ญี่ปุ่น, ไทย, สหรัฐอเมริกา และหลายประเทศในทวีปยุโรปได้รับผลประโยชน์ อินเดียเป็นอีกหนึ่งตลาดที่กำลังเติบโตทางด้านการท่องเที่ยว

สำหรับอันดับสุดท้าย คือ สร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวตามความต้องการ โดย Hotels.comพยายามส่งมอบเครื่องมือที่ลูกค้าต้องการผ่านแอพพลิเคชันของเรา เพื่อจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับประสบการณ์การเข้าพักของพวกเขา รวมไปถึงนำเสนอบริการเสริม อาทิ ทางเลือกสำหรับยานพาหนะ, การบอกทิศทางไปที่พัก, วิธีการซื้อบัตรสำหรับงานอีเวนต์ต่างๆในพื้นที่ และสื่อกลางสำหรับการแชร์ประสบการณ์การท่องเที่ยว ด้วยการอัพโหลดภาพถ่ายและการรีวิวแบบเรียลไทม์

 โฮสเทล รับแบ็กแพ็กเกอร์มาแรง

ในแง่ของผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยว นอกจากการเติบโตของธุรกิจโรงแรมในประเทศไทยที่ในปีนี้ยังคงขยายตัวต่อเนื่องแล้ว ธุรกิจ”โฮสเทล” หรือธุรกิจที่พักขนาดเล็กที่รองรับความต้องการของนักท่องเที่ยวราคาประหยัด ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐาน เช่น เตียงนอน และที่เก็บของ ส่วนมากจะมีลักษณะคล้ายหอพัก คือเตียงสองชั้นหลายๆ เตียงในห้องเดียวกัน และมีจุดเด่น เรื่องของเป็นแหล่งพบปะเพื่อนใหม่และ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างเข้าพักห้องเดียวกัน ก็เป็นตลาดที่มีการเติบโตในไทยเพิ่มขึ้น

ต่อเรื่องนี้ ผศ.ดร.พัลลภา ปีติสันต์ ประธานสาขาการตลาด วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวในงานสัมมนาการตลาด “Hostel ไขเคล็ดลับ ที่พักไซซ์เล็ก กลเม็ดพิชิตแบ็กแพ็กเกอร์” ซึ่งจัดโดยมหาวิทยาลัยมหิดล ว่า ปัจจุบันในประเทศไทยมีโฮสเทลมากกว่า 2 พันแห่ง หรือคิดเป็น 12% ของที่พักนักท่องเที่ยวทั้งหมด ถือได้ว่ามีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว และธุรกิจโฮสเทล ยังมีโอกาสเติบโตขึ้นอีกกว่า 10% ภายในสิ้นปีนี้ โดยเฉพาะในจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักของประเทศ อาทิ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต

“แนวโน้มการเจริญเติบโตของธุรกิจโฮสเทล ที่มีเพิ่มมากขึ้น เพราะประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการเดินทางของนักท่องเที่ยวฝั่งยุโรป และกลุ่มเป้าหมายของโฮสเทล ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มแบ็กแพ็กเกอร์ที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย โฮสเทลถือว่าตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้มากพอสมควร “ผศ.ดร.พัลลภา กล่าวทิ้งท้าย

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,123 วันที่ 17 – 20 มกราคม พ.ศ. 2559

 

Comments

comments