ททท.ผนึกแอร์ไลน์ดึงขาเที่ยวทั่วโลก จ่อเปิดอีกกว่า 30 เส้นทางบินเชื่อมไทย-กลุ่ม CLMV
ททท.ลุยผนึกยักษ์แอร์ไลน์ส “มิดเดิลอีสต์-เอเชีย” หนุนกลยุทธ์ “สปริงบอร์ด” หวังดึงทั่วโลกเที่ยวไทย พร้อมจับมือ “บินไทย” อัดแคมเปญตั๋วบินราคาพิเศษกระตุ้นบรรยากาศท่องเที่ยวช่วงโลว์ซีซั่น ล่าสุดดอดเจรจา 5 สายการบินในประเทศเปิดตัวกว่า 30 เส้นทางบินคุณภาพ เชื่อมไทยกับประเทศกลุ่ม CLMV ในงาน “ทีทีเอ็ม 2016 พลัส” ที่เชียงใหม่ 8-10 มิถุนายนนี้
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ได้เตรียมเซ็นสัญญาข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับสายการบินยักษ์ใหญ่ของมิดเดิลอีสต์ 2 ราย คือ เอทิฮัด และเอมิเรตส์ โดยสายการบินเอทิฮัด ทาง ททท.มีแผนต่อสัญญาเอ็มโอยูภายในเดือนกันยายนปีนี้ เพื่อเริ่มดำเนินการความร่วมมือส่งเสริมตลาดในปี 2560 โดยมีแนวโน้มว่าการลงทุนร่วมกันในมูลค่าฝั่งละประมาณ 6.5 แสนเหรียญสหรัฐ ซึ่งใกล้เคียงกับปีที่แล้ว ส่วนสายการบินเอมิเรตส์นั้นสนใจเซ็นสัญญากับ ททท.อย่างเป็นทางการเช่นกัน คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายนนี้
ขณะที่สายการบินกาตาร์ มีแผนเปิดเส้นทางบินใหม่จากกรุงโดฮาเข้าไทย 2 เส้นทางในปลายปีนี้ ได้แก่ กระบี่ ความถี่ 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และเชียงใหม่ 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ สอดรับกับกลยุทธ์ของ ททท.ที่ต้องการโปรโมตจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวใหม่ ๆ ยกตัวอย่าง เชียงใหม่ สามารถขายพ่วงเมืองรองอย่างลำปางและลำพูน ตามแคมเปญ 12 เมืองต้องห้าม…พลาด พลัสได้
“กลยุทธ์สร้างความร่วมมือกับสายการบินต่างชาติรายใหญ่ของโลกถือเป็นสปริงบอร์ดสำคัญ ช่วยขนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย เพราะสายการบินมิดเดิลอีสต์เหล่านี้มีแผนสร้างความแข็งแกร่งของฮับบิน ผ่านการขยายเครือข่ายเส้นทางบินไปยังเมืองรองในประเทศเกิดใหม่ทุกภูมิภาคทั่วโลก เช่น แถบละตินอเมริกา และยุโรปตะวันออก นอกเหนือจากสายการบินมิดเดิลอีสต์แล้ว ได้กำชับให้สำนักงาน ททท.ในญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ เร่งใช้กลยุทธ์สปริงบอร์ดนี้ดึงนักท่องเที่ยวที่เดินทางมา 2 ประเทศนี้ ให้เลือกเดินทางเข้าไทยมากขึ้น”
ด้านนายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ ผู้อำนวยการภูมิภาคยุโรป แอฟริกา และตะวันออกกลาง ททท. กล่าวเสริมว่า นอกเหนือจากความร่วมมือกับ 3 สายการบินมิดเดิลอีสต์ดึงนักท่องเที่ยวทั่วโลก โดยเฉพาะฝั่งยุโรปมาเที่ยวไทยแล้ว ททท.ได้ผนึกความร่วมมือกับสายการบินไทย และ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) ภายใต้แคมเปญ “3 ประสาน” แบ่งออกเป็น 2 ช่วง ช่วงแรกคือ เดือนพฤษภาคม-มิถุนายน และช่วงที่ 2 เดือนกันยายน
โดยการบินไทยจะออกตั๋วบินราคาพิเศษเพื่อกระตุ้นยอดจองช่วงโลว์ซีซั่น ส่วน ททท.และ ทอท.จะไปช่วยเรื่องบริการพิเศษ และเน้นนักท่องเที่ยวจาก 6 เมืองสำคัญ เช่น ลอนดอน, ปารีส, แฟรงก์เฟิร์ต และสตอกโฮล์ม ทั้งนี้ การบินไทยเตรียมกลับไปเปิดให้บริการเส้นทางบินตรงไปกรุงมอสโก รัสเซีย, กรุงเตหะราน อิหร่าน และกรุงมัสกัต โอมาน แล้วในเร็ว ๆ นี้
นางจุฑาพร เริงรณอาษา รองผู้ว่าการ ททท. ตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา กล่าวว่า ขณะนี้ ททท.อยู่ระหว่างเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงาน “เดสติเนชั่น เวดดิ้ง แพลนเนอร์ คองเกรส” ที่ภูเก็ต เป็นครั้งที่ 4 หลังเคยจัดกรีซ เมอริเชียส และฟลอเรนซ์ อิตาลี ใน 3 ครั้งแรก เพื่อจับตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มลักเซอรี่หรือไฮเอนด์ โดยเชิญเวดดิ้งแพลนเนอร์กว่า 180 รายมาพบผู้ประกอบการระดับไฮเอนด์จากทั่วโลก
ส่วนนางศรีสุดา วนภิญโญศักดิ์ รองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ กล่าวถึงกลยุทธ์สปริงบอร์ดสำหรับตลาดเอเชียด้วยว่า เตรียมนำเสนอเส้นทางบินใหม่ศักยภาพสูงให้สายการบินพิจารณาเปิดให้บริการ เช่น ตลาดอินเดีย ซึ่ง ททท.ต้องการผลักดันให้เกิดกระแสการเดินทางเชื่อมโยงระหว่างไทยและประเทศในกลุ่ม CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม) กับเมืองรองของอินเดีย เช่น เมืองกูวาฮาตี ไจปูร์ และโคจิโดยจะหนุนให้เปิดบินตรงลงสนามบินอู่ตะเภา เพื่อส่งเสริมตลาดอินเดียกลุ่มครอบครัว ซึ่งนิยมมาเที่ยวเมืองพัทยาเป็นจำนวนมาก
ขณะที่ตลาด CLMV ททท.ก็ได้เตรียมเปิดตัวเส้นทางบินเชื่อมโยงในภูมิภาคอาเซียนกว่า 30 เส้นทาง ในงานไทยแลนด์ แทรเวล มาร์ท พลัส 2016 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 8-10 มิถุนายนนี้ ที่ศูนย์ประชุมฯเชียงใหม่ เพื่อกระจายนักท่องเที่ยวต่างชาติไปยังหลากหลายจุดหมาย เช่น เส้นทางบินเสียมเรียบ กัมพูชา สามารถเชื่อมไทยด้วยการบินลงกระบี่ หาดใหญ่ และเชียงใหม่ หรือเส้นทางบินจากเวียดนาม ตรงสู่สนามบินอู่ตะเภา
ทั้งนี้ ททท.ได้หารือร่วมกับ 5 สายการบิน ได้แก่ การบินไทย, บางกอกแอร์เวย์ส, ไทยสมายล์, ไทยแอร์เอเชีย และนกแอร์ซึ่งทาง 5 สายการบินจะกลับไปพิจารณาเส้นทางบินที่ต้องการเปิดและเหมาะกับแนวทางทำธุรกิจอีกครั้ง
“ททท.จำเป็นต้องเร่งพัฒนาแนวทางการทำตลาดและแพ็กเกจให้น่าสนใจมากขึ้น เพื่อเจาะนักท่องเที่ยวเอเชียกลุ่มคุณภาพใช้จ่ายสูง (ไฮเอนด์) ทั้งกลุ่มคู่รักฮันนีมูน กอล์ฟ และเมดิคอล เพื่อแข่งขันในศึกแย่งชิงนักท่องเที่ยวคุณภาพของตลาดเอเชีย ซึ่งนับวันยิ่งแข่งขันรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวทุกองค์การต่างเก่ง แข็งแรง และมีความพร้อมหมด ประกอบกับตลาดเอเชียพร้อมเปลี่ยนแผนและจุดหมายเที่ยวได้อย่างรวดเร็ว”
ผู้ว่าการ ททท.ยังได้กล่าวเพิ่มเติมถึงรายละเอียดการจัดงานเทรดโชว์ด้านท่องเที่ยว “ไทยแลนด์ แทรเวล มาร์ท 2016 พลัส” (ทีทีเอ็มพลัส) ด้วยว่า เป็นปีแรกที่ ททท.ไปจัดนอกกรุงเทพฯ ภายใต้แนวคิด “อะเมซิ่ง เกตเวย์ ทู เดอะ เกรทเตอร์ แม่โขง ซับรีเจียน” เหตุผลที่เลือกจัดศูนย์ประชุมฯเชียงใหม่ เพราะเป็นจุดหมายที่แข็งแรงมากเรื่องการท่องเที่ยวระดับท้องถิ่น (โลคอลทัวริสซึ่ม) ได้รับผลตอบรับจากบรรดาผู้ซื้อผู้ขายดีมาก ททท.คาดว่างานนี้จะช่วยจุดกระแสการเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจ ระหว่างประเทศในกลุ่ม CLMVT (รวมไทยด้วย) ก่อนถึงงาน CLMVT FORUM ที่รัฐบาลจะจัดขึ้นในวันที่ 16-18 มิถุนายนนี้
สำหรับจำนวนผู้ขายในงานปีนี้ มีจำนวน 385 ราย เป็นผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ในภาคเหนือ 20 ราย ส่วนผู้ซื้อมีสนใจสมัครเข้าร่วมงาน 583 ราย ททท.คัดเลือกเหลือ 495 ราย จาก 59 ประเทศ โดยเป็นผู้ซื้อหน้าใหม่ถึง 245 ราย ส่วนใหญ่มาจากประเทศเกิดใหม่แถบละตินอเมริกา ยุโรปตะวันออก และตะวันออกกลาง ทั้งนี้คาดว่าจะมีเม็ดเงินหมุนเวียนในงานราว 300-500 ล้านบาท
updated: 09 พ.ค. 2559 เวลา 11:09:20 น.