ททท.ของบกระตุ้นท่องเที่ยว780 ล้าน
ททท.รุก ของบกลาง หวังกระตุ้นท่องเที่ยว 780 ล้านบาท นำร่องใช้โครงการเที่ยวช่วยไทย 100 ล้าน โว “สมคิด” กล่อม “โตโยต้า” แจกรางวัล รถยนต์ไตรมาสละคัน“
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ททท.เตรียมขออนุมัติงบกลางจากรัฐบาลภายใต้วงเงิน 780 ล้านบาท เพื่อมาจัดโครงการกระตุ้นการท่องเที่ยวแบบเร่งด่วน (ควิกวิน) อาทิ โครงการ เที่ยวช่วยไทย ที่จะนำร่องเป็นโครงการแรก คิดเป็นสัดส่วนการใช้งบประมาณ 100 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มโครงการได้เดือน มี.ค. นี้ เบื้องต้น เตรียมของรางวัลไว้แล้ว โดยเฉพาะรางวัลใหญ่ ที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้ติดต่อไปยัง บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด และได้รับการตอบรับมอบรถยนต์ให้ผู้โชคดี ไตรมาสละ 1 คัน “ขณะนี้ เรื่องของรางวัล ยังอยู่ในช่วงการตอบรับจากบริษัทเอกชนต่าง ๆ แต่ก็เริ่มเห็นจากที่ใหญ่ ๆ เข้ามาบ้างแล้ว เช่น จากบริษัท ซัมซุง ประเทศไทย จำกัด ก็ตอบรับที่จะให้อุปกรณ์ไอที หรือ เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า ส่วนภาครัฐ ก็จะมอบรางวัลเงินสดให้ผู้โชคดีเดือนละ 1 ล้านบาท จากนี้ก็อยู่ที่การเร่งหาข้อสรุปเงื่อนไขการชิงโชค ว่าเงื่อนไขใด เข้าข่าย สามารถชิงโชคได้บ้าง เพราะต้องการให้ประชาชนสะดวกในการส่งชิงโชค อย่างเปิดฝาขวด สามารถส่งฝาชิงโชคได้เลย แต่ปัญหาก็ต้องอยู่ภายในเงื่อนไขว่า ประชาชนต้องท่องเที่ยว และมีส่วนช่วยสนุบสนุนธุรกิจท่องเที่ยว ที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย” อย่างไรก็ตาม ในการขออนุมัติงบประมาณจากส่วนกลาง อาจมีความล่าช้า จึงเตรียม ให้ฝ่ายบริหารของ ททท. พิจารณาจัดสรรงบภายในของ ททท.มาใช้ล่วงหน้าไปก่อน เพื่อใช้ในการประชาสัมพันธ์โครงการ ให้ทันส่งเสริมตลาดในช่วงไตรมาสที่ 2-3 ของปี ซึ่งตรงกับช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น) โดยคาดว่าจะเสนอให้คณะกรรมการ (บอร์ด) ททท.พิจารณาเห็นชอบวันที่ 17 ก.พ.นี้ พร้อมกับมอบหมายให้นายศุกรีย์ สิทธิวณิช รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด เริ่มวางแผนการประชาสัมพันธ์โครงการไว้ล่วงหน้าแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโครงการเที่ยวช่วยไทย ประกอบด้วย 3 โครงการย่อย ได้แก่ โครงการเที่ยวลุ้นล้าน ผ่านการออกแบบแพ็กเกจท่องเที่ยวให้คนซื้อมีสิทธิ์ร่วมลุ้นรางวัลใหญ่ โดยทุก ๆ 1,000 บาท ของค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยว ลุ้นโชคเงินล้านทุกเดือน และในแต่ละไตรมาส อาจมีรถยนต์หรือบ้านเป็นรางวัลใหญ่ ,โครงการเกิดมาเที่ยว โดยขอความร่วมมือโรงแรมและที่พักลดราคาห้องพักให้กับนักท่องเที่ยวในคืนที่ตรงกับวันเกิด 50% พร้อมรับส่วนลด 50% สำหรับคืนที่ 2 เป็นต้นไป และโครงการเที่ยวไม่รู้จบ ให้สวัสดิการท่องเที่ยว ยิ่งเที่ยวยิ่งลด รวมถึงโปรแกรมสะสมประสบการณ์ นอกจากนี้ยังมีโครงการอื่น ๆ ที่จะขอภายใต้งบประมาณกลาง เช่น เที่ยวไทยสุดมันส์วันหยุดยาว ซึ่งรัฐบาลต้องการให้มีอีเวนต์ใหญ่ ๆ เช่น การจัดคอนเสิร์ตระดับโลก มีฉากหลังเป็นโบราณสถาน,ถนนคนกิน,เวิลด์ สปอร์ต อีเวนต์ และงานเคานต์ดาวน์ รวมถึงการออกแบบแพ็กเกจเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยวเฉพาะกลุ่ม เช่น กลุ่มนักเรียน นักศึกษา การท่องเที่ยวเชิงให้รางวัล (อินเซนทีฟ) กลุ่มวัยเกษียณ ซึ่ง ททท.จะขอที่นั่งจาก 5 สายการบินหลักเป็นจำนวนพิเศษ จากการบินไทย บางกอกแอร์เวย์ส ไทย แอร์เอเชีย นกแอร์ และไทยไลอ้อนแอร์ รวมถึงโครงการเพิ่มเสน่ห์การท่องเที่ยวท้องถิ่น (โลคอล แพสชั่น) ทั้งสถานีริมทางสุขใจ,พัฒนาเส้นทางแอ่งท่องเที่ยว,ลายแทงอาหารถิ่น,อินดัสเทรียล ทัวริสซึ่ม แมป และการประดับไฟแหล่งท่องเที่ยวโบราณสถาน เป็นต้น ด้านนางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า กระทรวงท่องเที่ยวฯเตรียมระดมภาคเอกชนด้านการท่องเที่ยวที่อยู่ในอยู่ภายใต้สมาคม รวมถึงสายการบิน และ โรงแรมเครือใหญ่ของไทย ไปสำรวจพื้นที่ท่องเที่ยวในประเทศกลุ่มอาเซียนเพื่อกระตุ้นความสนใจให้เกิดการลงทุนมากขึ้น ซึ่งจะช่วยช่วงชิงส่วนแบ่งทางการตลาดในกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่อย่างประเทศจีน ที่ขณะนี้ทุนจากจีนเริ่มรุกเข้ามาลงทุนด้านการท่องเที่ยว โดยเฉพาะด้านโรงแรม ทั้งนี้ใน เบื้องต้นเตรียมนำร่องในประเทศเมียนมาและกัมพูชาเป็นสองประเทศแรก ทั้งนี้ในส่วนของรัฐบาลกัมพูชายังได้หารือกับตน อยากให้นักลงทุนไทยเข้าไปลงทุนโรงแรมระดับ 5-6 ดาวขนาดใหญ่ที่เมืองเสียมราฐ เพื่อรองรับตลาดนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นโดยเฉพาะ เพราะช่วงหลัง ๆ ภาคการท่องเที่ยวของกัมพูชาเจอปัญหาทุนจีนลงทุนผ่านตัวแทนอำพราง (นอมินี) เข้าไปซื้อกิจการโรงแรมรองรับตลาดนักท่องเที่ยวจีน ทำให้นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นไม่รู้จะไปเข้าพักที่ไหน คาดว่ากระทรวงการท่องเที่ยวฯจะพาสมาคมด้านท่องเที่ยวของไทยเดินทางไปเสียมราฐเพื่อดูศักยภาพภายในครึ่งแรกของปีนี้ “การไปสำรวจพื้นที่ในครั้งนี้ กระทรวงยังได้วางแนวทาง ให้มีการหารือระดับรัฐมนตรีท่องเที่ยวหลักๆ ตอนนี้มี 2 ประเทศคือเมียนมาและกัมพูชาที่อยากให้นักลงทุนไทยเข้าไปลงทุน โดยทางกระทรวงการท่องเที่ยวฯของไทยเองก็เห็นด้วยกับการส่งเสริมให้คนไทยไปลงทุนต่างประเทศมากขึ้น จากเดิมที่เน้นดึงนักลงทุนต่างชาติที่มาลงทุนท่องเที่ยวไทย เพราะตอนนี้ท่องเที่ยวอาเซียนขยายตัวสูงมาก รอไม่ได้”
ที่มา: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์