บึ้ม “ราชประสงค์” ไม่ระคาย กลุ่มโรงแรมโชว์ตัวเลข Q3 (ยัง) แข็งแกร่ง | ATTA

ACTIVITY OF MONTH














ATTA > Tourism News > บึ้ม “ราชประสงค์” ไม่ระคาย กลุ่มโรงแรมโชว์ตัวเลข Q3 (ยัง) แข็งแกร่ง

บึ้ม “ราชประสงค์” ไม่ระคาย กลุ่มโรงแรมโชว์ตัวเลข Q3 (ยัง) แข็งแกร่ง

แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากเหตุกาณ์ระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์ในช่วงกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาแต่ภาคธุรกิจท่องเที่ยวของไทยยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องในช่วงไตรมาส3 จำนวนนักท่องเที่ยวรายเดือนระหว่างกรกฎาคม-กันยายนเติบโตเพิ่มขึ้นทุกเดือน ส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยในไตรมาส3ที่ผ่านมามีจำนวนถึง 7.3 ล้านคน เพิ่มขึ้น 24% จากไตรมาสเดียวกันของปี 2557

จากแนวโน้มดังกล่าวนี้ ส่งผลให้กลุ่มธุรกิจโรงแรมได้รับอานิสงส์และเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแรง

“สุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์” ประธานกรรมการบริษัทโรงแรมเซ็นทรัลพลาซา บอกว่า แม้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศในไตรมาส 3 ต่ำกว่าที่เคยคาดไว้ แต่บริษัทได้สร้างผลงานที่ดีอย่างต่อเนื่องอีกไตรมาสหนึ่ง

โดยไตรมาส 3 ของปีนี้มีรายได้รวม 4,527.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 157.6 ล้านบาท หรือ 3.6% เป็นรายได้จากธุรกิจโรงแรม 1,910.8 ล้านบาท และรายได้จากธุรกิจอาหาร 2,489.0 ล้านบาท โดยคิดเป็นสัดส่วน 45% และ 55% ของรายได้รวม

และมีกำไรเติบโต 74.8% ในไตรมาส 3 เมื่อรวมกับผลการดำเนินงานที่ดีในครึ่งปีแรกทำให้ 9 เดือน มีกำไรเพิ่มขึ้น 93.1% จากปี 2557

สำหรับธุรกิจโรงแรมมีรายได้รวม 2,038.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 171.5 ล้านบาท หรือ 9.2% จากไตรมาส 3/2557 อัตราการเข้าพักอยู่ที่ 80.2% เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3/2557 ที่มี 73.2%

ทั้งนี้ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ ในกรุงเทพฯ ทั้ง 2 แห่ง ได้แก่ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ และโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว กรุงเทพฯ มีผลการดำเนินงานที่ดี มีรายได้โดยรวมเพิ่มขึ้น 15.6% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และทำรายได้คิดเป็นสัดส่วน 30% ของรายได้จากธุรกิจโรงแรม (ไตรมาส 3/2557: 23%)

ในขณะที่โรงแรมทั้ง 2 แห่งในมัลดีฟส์ยังสามารถสร้างรายได้ดี โดยคิดเป็นสัดส่วน 20% ของรายได้จากธุรกิจโรงแรมซึ่งใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา

“สุทธิเกียรติ” บอกด้วยว่า หากประเมิน 9 เดือนพบว่า ธุรกิจโรงแรมมีรายได้รวม 6,672.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 743.7 ล้านบาท หรือ 12.5% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และมีอัตราการเข้าพัก 80.7% เพิ่มขึ้น 8.0% จุด

รายได้จากโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ ในกรุงเทพฯ ทั้ง 2 แห่ง ปรับตัวเพิ่มขึ้น 42% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ทำให้มีสัดส่วนรายได้จากโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ ในกรุงเทพฯเพิ่มขึ้นเป็น 30% (ม.ค.-ก.ย. 2557 เท่ากับ 23%)

เช่นเดียวกับโรงแรมทั้ง 2 แห่งในมัลดีฟส์ มีค่าห้องพักโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 7% ซึ่งรายได้จากโรงแรมทั้งสองคิดเป็นสัดส่วน 20% ของรายได้จากธุรกิจโรงแรม

เช่นเดียวกับ “ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล” ที่มีผลกำไรในไตรมาส 3 เพิ่มขึ้น 24% และเพิ่มขึ้น 30% สำหรับงวด 9 เดือนเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2557

โดยธุรกิจโรงแรมและอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องแสดงอัตราการเติบโตของรายได้ที่ 28% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ เป็นมาจากผลการดำเนินงานที่โดดเด่นของโรงแรมในประเทศไทย กลุ่มโรงแรมโอ๊คในออสเตรเลีย โรงแรมที่บริษัทรับจ้างบริหาร และอนันตรา เวเคชั่น คลับ

“ไตรทิพย์ ศิวะกฤษณ์กุล” ประธานเจ้าหน้าที่การเงินส่วนกลาง “ไมเนอร์ฯ” แจ้งว่า สิ้นไตรมาส 3 ที่ผ่านมาบริษัทมีโรงแรมที่ลงทุนเอง 57 แห่ง และมีโรงแรมและเซอร์วิส สวีทที่รับจ้างบริหารอีก 77 แห่งใน 22 ประเทศ มีจำนวนห้องพักรวม 17,076 ห้อง แบ่งเป็นห้องที่ลงทุนเอง 7,141 ห้อง และรับจ้างบริหาร 9,935 ห้องภายใต้แบรนด์ของบริษัท

“กลุ่มโรงแรมทั้งหมดที่บริษัทเป็นเจ้าของมีสัดส่วนรายได้คิดเป็น48%ของรายได้จากธุรกิจโรงแรมและอื่น ๆ ซึ่งรายได้ต่อห้องต่อคืนของโรงแรมในกรุงเทพฯฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งหลังจากได้รับผลกระทบทางการเมืองในปี 2557 ซึ่งมากกว่าผลกระทบจากการยกเลิกการจองห้องพักจากเหตุระเบิดแยกราชประสงค์ในช่วงกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา”

ด้าน“ดิ เอราวัณ กรุ๊ป” ที่ยังคงมีผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายได้รวม 1,216 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% (ไม่รวมรายได้อื่น ๆ)จากช่วงเดียวกันของปี 2557 รายได้จากธุรกิจโรงแรม ซึ่งเป็นรายได้หลักเพิ่มขึ้น 21% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนเช่นกัน

และยังคงขาดทุนอยู่ที่ 20 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนอยู่ที่83 ล้านบาท

โดยในไตรมาส 3 ปีนี้โรงแรมกลุ่ม “ดิ เอราวัณ กรุ๊ป” มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยอยู่ที่ 71% เพิ่มขึ้น 9% จุด (ไตรมาส 3/57 อยู่ที่ 62%) และยอมรับว่าธุรกิจโรงแรมได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การเมือง

ขณะที่อัตราค่าห้องพักเฉลี่ยลดลง 9% จากไตรมาส 3/ 2557 เนื่องจากโรงแรมที่เปิดใหม่ในช่วงปี 2557-2558 เป็นโรงแรมระดับกลาง และระดับบัดเจ็ต

และหากดูตัวเลข 9 เดือนพบว่า มีรายได้รวม 3,869 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้จากธุรกิจโรงแรมเพิ่มขึ้น 36% และมีกำไร 94 ล้านบาท จากที่ขาดทุนอยู่ 163 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปี 2557

ตัวเลขดังกล่าวนี้สะท้อนได้อย่างดีว่า กลุ่มธุรกิจ “โรงแรม” ของไทยยังสามารถเติบโตได้ตามแนวโน้มการขยายตัวของนักท่องเที่ยวต่อไปได้อย่างแข็งแกร่ง!

ที่มา: ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

Comments

comments