เปิดยุทธศาสตร์ “ท่องเที่ยว” ปั้นรายได้ปี”59 แตะ 2.3 ล้านล้าน | ATTA

ACTIVITY OF MONTH














ATTA > Tourism News > เปิดยุทธศาสตร์ “ท่องเที่ยว” ปั้นรายได้ปี”59 แตะ 2.3 ล้านล้าน

เปิดยุทธศาสตร์ “ท่องเที่ยว” ปั้นรายได้ปี”59 แตะ 2.3 ล้านล้าน

จากรายงาน ของ UNWTO World Tourism Barometer ระบุว่า ตั้งแต่ต้นปีกระทั่งถึงเดือนสิงหาคม 2558 ที่ผ่านมา พบว่า จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางระหว่างประเทศยังคงเติบโตต่อเนื่องในอัตรา 4% ต่อปี โดยมีจำนวนทั้งสิ้น 810 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 33 ล้านคน

ดัชนีท่องเที่ยวโลกพุ่ง

ขณะที่ World Travel & Council (WTTC) คาดว่าจีดีพีด้านการท่องเที่ยวและเดินทางของโลกจะขยายตัวเพิ่มขึ้น 3.5% ซึ่งสูงกว่าการขยายตัวของจีดีพีรวมของโลกที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 2.5% โดยมีส่วนแบ่งทางเศรษฐกิจโลกมูลค่าถึง 7.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น 3.5% ของจีดีพีโลก

ทั้งนี้เอเชียใต้เป็นภูมิภาคที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจการท่องเที่ยวสูงที่สุดถึง 7.7% ซึ่งมาจากการขยายตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้จากการท่องเที่ยวที่สูงขึ้นของประเทศอินเดีย ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจการท่องเที่ยวใหญ่ที่สุดในภูมิภาค

สำหรับประเทศไทยนั้นจากรายงานของกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า ในช่วง 10 เดือนแรก (มกราคม-ตุลาคม)

ที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวจำนวน 24.36 ล้านคน ขยายตัวอยู่ในระดับ 24.75% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้จากการท่องเที่ยว 1.158 ล้านล้านบาท ขยายตัว 27.05%

โดยตลอด 10 เดือนที่ผ่านมาการขยายตัวของนักท่องเที่ยวจีน และการหดตัวของนักท่องเที่ยวรัสเซียยังคงมีอิทธิพลต่อทิศทางการเปลี่ยนแปลงจำนวนนักท่องเที่ยวโดยรวมของไทย

ตั้งเป้ารายได้ 2.3 ล้านล้าน

สำหรับในปี 2559 นี้ “กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา บอกว่า นโยบายหลักของภาคธุรกิจท่องเที่ยวคือ ต้องยกระดับความเข้มข้นในการทำรายได้มากขึ้น เพราะรัฐบาลได้ยกให้ภาคธุรกิจท่องเที่ยวเป็นเซ็กเตอร์หลักที่ช่วยสร้างรายได้เข้าประเทศช่วง 2-3 ปีนับจากนี้ กระทรวงจึงตั้งเป้าหมายรายได้ท่องเที่ยวปี 2559 อยู่ที่ 2.3 ล้านล้านบาท และเพิ่มเป็น 2.5 ล้านล้านบาทในปี 2560

“ตอนนี้เราจะไม่ตั้งเป้าในเรื่องจำนวนนักท่องเที่ยว จะตั้งเพียงเป้าหมายรายได้ท่องเที่ยวเท่านั้น เพื่อมุ่งสร้างมูลค่าตลาดท่องเที่ยวพร้อมทั้งเพิ่มรายได้ต่อคนต่อทริปให้มากขึ้น 10-15% ภายในปี 2560 จากปัจจุบันค่าใช้จ่ายนักท่องเที่ยวต่างชาติเฉลี่ยอยู่ที่ 4,950 บาท

“ต่อจากนี้ กระทรวงและ ททท.ต้องยกระดับการทำงานแบบบูรณาการร่วมกับอีก 7-8 กระทรวงที่เกี่ยวข้องมากกว่านี้ ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อสร้างการกระจายรายได้สู่ชุมชน เพื่อชดเชยเซ็กเตอร์อื่น ๆ ที่กำลังประสบปัญหา เช่น ภาคการเกษตร ซึ่งเผชิญภาวะสินค้าราคาเกษตรตกต่ำ ให้นำมาขายราคาดี ๆ แก่นักท่องเที่ยวโดยตรง”

มุ่งโฟกัสเซ็กเมนต์กลาง-บน

ขณะเดียวกันยังต้องไปโฟกัสตลาดนักท่องเที่ยวตลาดบนและกลางมากขึ้น ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องท้าทาย เพราะสัดส่วนตลาดบนปัจจุบันอยู่ที่ 10% เท่านั้น ส่วนตลาดกลางอยู่ที่ 30% ที่เหลือ 60% เป็นตลาดล่าง

ดังนั้นนับจากนี้ ททท.ต้องปรับแผนการใช้งบประมาณทำตลาด อาจดึงงบฯทำตลาดล่างโยกมาที่ตลาดกลางกับบนมากขึ้น เพื่อเพิ่มสัดส่วนตลาดกลางกับบนรวมกันให้ได้ 50% ใกล้เคียงกับตลาดล่างภายใน 2-3 ปีนี้

สอดรับกับ “ยุทธศักดิ์ สุภสร” ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) บอกว่า ททท. มีเป้าหมายสร้างรายได้จากภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในปี 2559 ไว้ที่ 2.3 ล้านล้านบาท โดยแบ่งเป็นจากตลาดต่างประเทศ 1.493 ล้านล้านบาท และ 8.07 แสนล้านบาท และเพิ่มเป็น 2.5 ล้านล้านบาทในปี 2560 โดยจะเปลี่ยนจากความรู้สึกที่คนมองประเทศไทยว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่คุ้มค่าเงินให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มาแล้วได้รับประสบการณ์ที่คุ้มค่า หรือ Value for Experience พร้อมปรับภาพลักษณ์ของประเทศไทยให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวคุณภาพ หรือ Quality Leisure Destination

กำหนดเป้าหมายชัดเจน

ด้านแผนการตลาดจะใช้รูปแบบที่เรียกว่า Target for Value คือ ทำการตลาดแบบมีเป้าหมายที่ชัดเจนว่าในตลาดไหนมีเป้าเติบโตได้เท่าไหร่ในแต่ละปี และจะสามารถสร้างรายได้เพิ่มได้เท่าไหร่ โดยขณะนี้มีแผนให้สำนักงาน ททท.ทุกแห่งในต่างประเทศทำการศึกษาพฤติกรรมนักท่องเที่ยวในแต่ละตลาดว่ามีความต้องการสินค้าท่องเที่ยวประเภทไหน อย่างไร แล้วกลับมาดูว่าประเทศไทยจะขายสินค้าอะไร อย่างไรบ้างจากนั้นให้ทุกสำนักงานต่างประเทศกำหนด “Product Champion” หรือสินค้าที่นักท่องเที่ยวในแต่ละตลาดต้องการและชื่นชอบ อาทิ ตลาดญี่ปุ่น ชื่นชอบสินค้าท่องเที่ยวเชิงกีฬา, วัฒนธรรม และสุขภาพ เป็นต้น และโปรดักต์แชมเปี้ยนดังกล่าวต้องครอบคลุมรายได้ไม่ต่ำกว่า 60-70%

ทั้งนี้เพื่อให้มีโฟกัสที่ชัดเจนและทำการตลาดได้ตรงเป้า สอดรับกับความต้องการของนักท่องเที่ยวแต่ละตลาดได้อย่างแท้จริง

“ไทยเที่ยวไทย” ทะลุ 8 แสน ล.

สำหรับตลาดในประเทศนั้นในปี 2559 ตั้งเป้าสร้างรายได้รวมให้ได้ถึง 8 แสนล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปี 2558 ราว 8.04% และมียอดนักท่องเที่ยวคนไทยที่ 150.8 ล้านคน-ครั้ง เติบโตเพิ่มขึ้นราว 4%

“สุจิตรา จงชาณสิทโธ” รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า เป้าหมายที่ตั้งไว้ 8.07 แสนล้านบาทนั้น หากทำดี ๆ อาจได้ถึง 1 ล้านล้านบาท โดยจะเน้นการเพิ่มสินค้าทางการท่องเที่ยวและสินค้าชุมชนขึ้นมาเสนอขายเพิ่ม การเปิดแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ การจัดแพ็กเกจการเดินทาง และแหล่งซื้อสินค้า โดยให้สำนักงานท่องเที่ยวทั่วประเทศจัดทำเส้นทางท่องเที่ยวมาเสนอขายอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างกระแสการเดินทาง โดยแผนทั้งหมดจะสอดรับกับ 5 คลัสเตอร์ที่เป็นยุทธศาสตร์ทางการท่องเที่ยวที่ทุกภาคจะต้องไปดีไซน์สินค้าและพัฒนาขึ้นมานำเสนอขายผ่านโรดไซด์สเตชั่น ซึ่งเป็นจุดจำหน่ายสินค้ารวม 148 แห่งทั่วประเทศ

ส่วนกลุ่มเป้าหมายนั้นกำหนดไว้ชัดว่าจะแบ่งเป็น 4 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มผู้สูงวัย, กลุ่มดิงส์ (Double Income No Kid) คู่แต่งงานที่ไม่มีบุตร กลุ่มผู้หญิง และกลุ่มเจนวาย ที่ชอบค้นหาตัวตนต้องการความเป็นอิสระ โดยกระจายตัวนักท่องเที่ยวจากเมืองหลักไปสู่เมืองรองมากขึ้นพร้อมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวในวันธรรมดาให้มีกระแสการเดินทางเพิ่มมากขึ้น เจาะกลุ่มผู้มีอาชีพอิสระ (ฟรีแลนซ์) ซึ่งมีแนวโน้มขยายตัวมากขึ้นในสังคมไทย รวมถึงกลุ่มผู้สูงอายุ และนิสิตนักศึกษา เป็นต้น

โดย ททท.จะเอาจริงเอาจังกับการโปรโมตเรื่องวันธรรมดา เตรียมลดการสนับสนุนภาคเอกชนที่จัดงานในวันเสาร์-อาทิตย์ และให้การสนับสนุนเอกชนที่จัดงานวันธรรมดา และคาบเกี่ยวเสาร์-อาทิตย์ เพิ่มจำนวนวันพักเฉลี่ยให้มากขึ้น ด้วยกลยุทธ์โปรโมตท่องเที่ยวข้ามภูมิภาค

นอกจากนี้ ได้พัฒนาและต่อยอดแนวคิดโครงการ “12 เมืองต้องห้าม…พลาด PLUS” เชื่อมโยงนักท่องเที่ยวสู่เมืองรองอื่น ๆ ใกล้เคียง เช่น ลำปาง เชื่อมโยงลำพูน, เพชรบูรณ์ เชื่อมโยงพิษณุโลก, นครศรีธรรมราช เชื่อมโยงพัทลุง และจันทบุรี เชื่อมโยงสระแก้ว ถือเป็นการต่อยอดจากโครงการ 12 เมืองต้องห้าม…พลาดของปีนี้

และโครงการ “เขาเล่าว่า…” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งโครงการไฮไลต์ในปีหน้า ต่อเนื่องจากโครงการดรีมเดสติเนชั่นของปีนี้ ภายใต้แนวคิด การสร้างเรื่องราวจากความเชื่อให้แหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ เพื่อสร้างกระแสให้คนไทยเที่ยวในประเทศ กระตุ้นให้คนอยากเดินทางท่องเที่ยวสักครั้งในชีวิต โดยรูปแบบการนำเสนอจะเป็นการเก็บเกี่ยวเรื่องเล่าจากทั่วเมืองไทยมาเปิดประสบการณ์ใหม่ให้กับนักท่องเที่ยว จำนวน 24 แหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศ

ทั้งนี้ ททท. จะจุดกระแสการท่องเที่ยวในประเทศด้วยโครงการเทศกาลเที่ยวเมืองไทยปี 2559 โดยจะยกเมืองไทยมาไว้ที่สวนลุมพินี กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 13-17 มกราคม 2559 นี้

ขณะที่โครงการวันธรรมดาน่าเที่ยว จะจัดพร้อมกับงาน Outdoor FEST เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยววันธรรมดา และช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว (โลว์ซีซั่น)

กำหนดจัดในวันที่ 12-15 พฤษภาคม 2559 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์จากแผนดังกล่าวนี้ทำให้เชื่อมั่นว่า มูลค่าตลาด “ไทยเที่ยวไทย” ในปี 2559 นี้ จะบรรลุเป้าหมายรายได้ 8 แสนล้านบาทได้แน่นอน

 

ที่มา:ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

Comments

comments