3 ชม.หนึ่งพัน! รีวิวที่แรก Sleep Box สนามบินแห่งแรกในอาเซียนเจ๋งยังไง
เพิ่งเปิดตัวไปสดๆ ร้อนๆ เมื่อวันที่ 14 มี.ค. 2559 สำหรับแหล่งพักพิงของนักเดินทางหลังใหม่ ที่สะดวกสบายมากๆ โดยเฉพาะเวลาคุณจะไปขึ้นเครื่องหรือต่อเครื่องที่ดอนเมือง จะไม่สะดวกได้ไงล่ะ? ก็ในเมื่อที่พักแห่งนี้มันอยู่ในสนามบินนี่
I Tour Alone กับฮัมมิ่งเบิร์ด คราวนี้ไม่ได้จะพาคุณไปเที่ยวที่ไหนหรอกนะคะ แต่มันเด็ดกว่านั้นค่ะคู้ณ! เพราะเราจะพาไปล้วงลึกทุกเม็ดเกี่ยวกับโรงแรมแนว Sleep Box แห่งใหม่ล่าสุดของเมืองไทย ว่ากันว่าเป็น Sleep Box แห่งแรกในสนามบินของไทย และในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) โอววว…ไม่ธรรมดา
ทันทีที่มีพรายกระซิบบอกว่า “เห้ยแก นี่เขาจะมีที่พักในสนามบินดอนเมืองแล้วนะ จะเปิดเร็วๆ นี้แหละ” เราฟังทีแรกก็ยังไม่เชื่อหูนะ เพราะสำหรับบรรดานักเดินทางทั้งหลาย การมีที่พักให้ซุกหัวนอนในสนามบินเนี่ย คือสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ คือนิพพาน คือความแฮปปี้ที่สุดที่ใฝ่ฝันกันมานานนม
เท่าที่ทราบ ยังไม่ค่อยมีประเทศไหนเขาทำกัน ยกเว้นประเทศญี่ปุ่น ซึ่งพี่ๆ แดนปลาดิบเขาเต็มที่กับเรื่องความสะดวกสบายของนักเดินทางอยู่แล้ว แต่กับบ้านเรานี่สิ รอแล้วรออีกก็ไม่เห็นมีวี่แวว แต่ในที่สุด…โอวแม่เจ้า! พี่ไทยเราทำได้แล้วค่ะ ในที่สุดดอนเมืองก็มีที่พักไว้บริการในสนามบินที่ชื่อว่าSleep Box by Miracle
ได้ยินมาว่าโรงแรมแบรนด์นี้ เขาก็มีชื่อเสียงด้านห้องพักและบริการที่ดีอยู่ไม่น้อย พอได้สัมปทานจากการประมูลพื้นที่เชิงพาณิชย์จากบริษัท การท่าอากาศยานไทย จำกัด มหาชน เพื่อทำ Sleep Box แบบนี้ รับรองว่าไม่ธรรมดา เอาล่ะ มาดูกันสิว่าห้องพักที่นี่เป็นอย่างไรบ้าง? เตียงนอนสบายมั้ย? ฝักบัวน้ำแรงรึเปล่า? มาดูกัน
บอกข้อมูลเบื้องต้นคร่าวๆ กันสักนิด สำหรับ Sleep Box แห่งนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 500 ตร.ม. บริเวณชั้น 4 อาคารผู้โดยสารภายในประเทศแห่งที่ 2 (Terminal 2) ท่าอากาศยานดอนเมือง มีทั้งหมด 25 ห้อง เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับนักเดินทางที่จะต้องมาขึ้นเครื่อง หรือรอเปลี่ยนเครื่องที่นี่ แต่ตอนนี้เขาเปิดให้บริการแค่เฟสแรก จำนวน 5 ห้องก่อน คือ ห้อง 201-205 ส่วนที่เหลือจะตามมาในเร็ววัน ไม่เกิน 1 เดือนข้างหน้า หรือประมาณเดือนเมษายน 2559
ใครที่คิดว่าเจ้า Sleep Box นี่จะต้องเป็นที่นอนแคบๆ แบบ ‘ที่นอนแคปซูล’ หรือ ‘รูหนอน’ คุณเข้าใจผิดค่ะ! เนื่องจากที่พักแห่งนี้ต้องการมอบความสะดวกสบายให้นักเดินทางให้มากที่สุด เขาก็เลยออกแบบเป็นห้องพักขนาดเล็กพร้อมห้องน้ำในตัว แต่ละห้องมีพื้นที่ใช้สอย 13-15 ตร.ม. (เป็นทรงสี่เหลี่ยมเล็กๆ เหมือนกล่อง) ภายในตกแต่งสไตล์โมเดิร์นสุดชิค เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนสมัยใหม่ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกตามมาตรฐานโรงแรม
มาถึงการบริการกันบ้าง ที่พักแห่งนี้ให้บริการทั้งแบบรายชั่วโมงและรายวัน ซึ่งในเฟสแรกที่เปิดให้บริการนี้ เขามีแพ็กเกจพิเศษ จองขั้นต่ำ 3 ชั่วโมง ราคาเพียง 1,000 บาท (จากเดิมราคาชั่วโมงละ 400 บาท ซึ่งหลายเสียงบ่นว่า โอ้จอร์จมันแพงเกิ๊น!) รวมบัตรเงินสด (Cash Card) สำหรับอาหาร มูลค่า 200 บาท 1 ใบ ต่อ 1 ห้องต่อ 2 คน ถ้าจะพักต่อ คิดชั่วโมงถัดไปชั่วโมงละ 200 บาท
ถ้าใครอยากพักแบบค้างคืน สามารถนอนได้ 9 ชม. ตั้งแต่ 21.00 – 06.00 น. ในราคาเพียง 1,800 บาทเท่านั้น ซึ่งรวมบัตรเงินสดสำหรับอาหาร 1 ใบ (200 บาท) ด้วยเช่นกัน คุณสามารถใช้โปรโมชั่นนี้ได้เรื่อยๆ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง
ส่วนใครต้องเดินทางแบบรีบร้อน ไม่มีเวลาพัก แต่อยากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ก็สามารถใช้บริการ Shower อาบน้ำอย่างเดียว ราคา 300 บาท (ให้เวลา 30 นาที) ส่วนการจองห้องพัก ตอนนี้ยังไม่เปิดให้จองผ่านออนไลน์ แต่คุณสามารถเดินไปจองห้องพักได้แบบวอล์กอิน (Walk in) ที่หน้าเคาน์เตอร์ได้ตลอด 24 ชม. หรือติดต่อพนักงานต้อนรับ โทร. 0 2535 7555
นอกจากนี้ ด้านหน้ายังมี Sleep Box Lounge เปิดบริการ 24 ชม. มีอาหาร ของว่าง และเครื่องดื่มไว้บริการผู้เข้าพัก หรือคนทั่วไปที่มาพบปะทางธุรกิจ ที่นี่เราได้ลองชิมน้ำส้มคั้นกับแซนด์วิชเบาๆ 2 ชิ้น อืม…รสชาติมาตรฐานทั่วไปค่ะ
ถัดไปไม่ไกลก็มีโซน Magic Garden แหล่งรวมร้านอาหารนานาชาติชื่อดังหลากหลายแบรนด์ เช่น Pepper Lunch, Tokyo teppanyaki, GYUNOYA, Auntie Anne’s, ยำแซ่บ, ราดหน้าจักรพรรดิ, ยู้ลูกชิ้นปลา, ข้าวหมกไก่สยามอินโด, นู้ดเดิ้ลการ์เด้น รวมทั้งหมด 19 ร้าน ภายในตกแต่งในบรรยากาศของสวนอันร่มรื่น พร้อมที่นั่งรับประทานอาหารสบายๆ 300 ที่นั่ง
เราได้ไปชิมเทปันยากิปลาแซลมอน ของร้าน Tokyo teppanyaki ก็ถือว่าอร่อยเลิศ ปลาสด ย่างซีอิ๊วญี่ปุ่นบนกระทะเทปัน เสิร์ฟพร้อมผัดผัก ข้าวสวย และซุปมิโสะ อิ่มคุ้มในราคาโปรโมชั่น 155 บาท ที่นี่ใช้บัตรเงินสด หรือ Cash Card ในการจ่ายค่าอาหารตามร้านต่างๆ ในโซนนี้จ้า
แว่วมาว่า ต่อไปเขากำลังจะเปิดให้บริการ Co-Working Space เพิ่มเข้ามาอีก คาดว่าจะมีพื้นที่ประมาณ 700 ตร.ม. แบ่งเป็นห้องทำงานและห้องประชุม พร้อมอุปกรณ์สำนักงานอันทันสมัย เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้ผู้ใช้บริการสนามบินดอนเมืองให้มากยิ่งขึ้น
หลังจากที่ได้ไปทดลองพักจริงในห้อง 202 ของ Sleep Box by Miracle เราได้สำรวจทุกซอกทุกมุมอย่างละเอียด จนสามารถสรุปข้อดีข้อเสียมาฝากเพื่อนๆ ดังนี้ค่ะ
ข้อดี
– สะดวกในการเดินทางมากๆ ยิ่งถ้าใครบินในประเทศก็จะต้องมาที่เทอร์มินอล 2 อยู่แล้ว
– สามารถชำระค่าห้องพักได้ทั้งเงินสดและบัตรเครดิต
– สามารถทำธุระส่วนตัวระหว่างรอขึ้นเครื่องได้สบายสุดๆ ห้องอาบน้ำกว้าง ฝักบัวน้ำไหลแรงดี
– เตียงนอนนุ่ม หมอน 2 ใบ หลับได้สบายเต็มอิ่ม ไม่ต้องง้อเก้าอี้สนามบินอีกต่อไป
– ในห้องพักมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน น้ำดื่มฟรี 2 ขวด สบู่ แชมพู ที่โกนหนวด หมวกอาบน้ำ ผ้าเช็ดตัว ฯลฯ
– มีเลาจน์ให้บริการอาหารและเครื่องดื่มอยู่ด้านหน้า ใกล้ๆ ห้องพัก
– ลงบันไดเลื่อนแค่ชั้นเดียว ก็ถึงเคาน์เตอร์เช็กอินของสายการบินต่าง
ข้อเสีย
– ราคายังถือว่าแพงไปนิดสำหรับคนไทย เพราะในย่านสนามบินดอนเมืองมีห้องพักให้เช่าราคาถูก เพียงคืนละ 400-500 บาทเท่านั้น นอนยาวได้ตั้งแต่บ่ายถึงเช้าอีกวัน ไม่นับชั่วโมง
– ยังไม่พร้อมสำหรับการจองห้องพักผ่านระบบออนไลน์
– ห้องพักยังไม่พร้อมให้บริการตามจำนวนที่ตั้งไว้ คือ 25 ห้อง
– ภายในห้องพัก ทีวียังใช้ไม่ได้ ต้องรอการติดตั้งสัญญาณจากการท่าฯ จะใช้ได้ประมาณสิ้นเดือน มี.ค. 2559
– Wifi ยังไม่มี ต้องรอการติดตั้งสัญญาณจากการท่าฯ จะใช้ได้ประมาณสิ้นเดือน มี.ค. 2559
ไทยรัฐออนไลน์ 17 มี.ค. 2559 06:05
https://www.thairath.co.th/content/591189